เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชั่น GPT-5: AI ที่ฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมา
- Veerachai Raksupakijkul
- Aug 8
- 2 min read

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้ผมสรุปเรื่องสุดยอดที่เพิ่งเปิดตัวไป นั่นก็คือ GPT-5! ฟังแล้วต้องบอกเลยว่าวงการ AI กำลังก้าวไปอีกขั้นแบบก้าวกระโดดจริงๆ ครับ
Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI บอกว่า GPT-5 ไม่ใช่แค่การอัปเกรดธรรมดา แต่มันคือ ก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่ AGI (ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป) เลยทีเดียว และที่สำคัญคือพวกเขาเชื่อว่าเราทุกคนจะ หลงรักการใช้งาน GPT-5 มากกว่า AI ตัวไหนๆ ที่เคยมีมา เพราะมันทั้งมีประโยชน์ ฉลาด รวดเร็ว และใช้งานง่ายสุดๆ
GPT-5 ฉลาดแค่ไหน?
ลองจินตนาการดูนะครับ:
GPT-3 เนี่ย เหมือนคุยกับนักเรียนมัธยมปลาย มีแววอัจฉริยะบ้าง แต่ก็มีส่วนที่น่าหงุดหงิดอยู่บ้าง
GPT-4o ดีขึ้นมาหน่อย เหมือนคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัย มีความฉลาดและประโยชน์จริงจัง
แต่ GPT-5 เนี่ย มันคือการคุยกับ "ผู้เชี่ยวชาญระดับปริญญาเอกตัวจริง" ไม่ว่าคุณจะต้องการความช่วยเหลือในด้านไหน มันสามารถช่วยคุณได้ตามต้องการเลยครับ ฟังแล้วขนลุกเลยใช่ไหมล่ะ!
พลังวิเศษในกระเป๋าของคุณ!
GPT-5 ไม่ได้แค่ตอบคำถามได้ฉลาดขึ้น แต่มันสามารถ "ทำสิ่งต่างๆ ให้คุณได้" อย่างเหลือเชื่อเลยครับ
มันสามารถ เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งโปรแกรมได้ตั้งแต่ต้น
ช่วยคุณ วางแผนงานปาร์ตี้ ส่งคำเชิญ หรือสั่งซื้ออุปกรณ์
ช่วยให้คุณ เข้าใจเรื่องสุขภาพและการตัดสินใจในการดูแลตัวเอง
ให้ข้อมูลเพื่อ เรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อใดก็ได้ที่คุณต้องการ
นี่คือ "สุดยอดพลังวิเศษตามต้องการ" ที่ไม่เคยมีใครจินตนาการถึงได้ในอดีต มันเหมือนมี ทีมผู้เชี่ยวชาญระดับปริญญาเอกทั้งทีมอยู่ในกระเป๋าของคุณ เลยทีเดียว ใครๆ ก็จะสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนในประวัติศาสตร์เคยทำมาได้เลยครับ
ความสามารถที่โดดเด่นของ GPT-5:
การให้เหตุผลเชิงลึก (Deep Reasoning):
OpenAI พัฒนาโมเดลที่ "หยุดคิด" ก่อนที่จะให้คำตอบที่ชาญฉลาดมากขึ้น
GPT-5 ได้ "กำจัดทางเลือก" ระหว่างการตอบสนองที่รวดเร็วของ GPT มาตรฐาน กับการตอบสนองที่ช้าแต่ละเอียดอ่อนของโมเดลการให้เหตุผล
เป้าหมายคือการ "คิดในปริมาณที่พอเหมาะพอเจาะ" เพื่อให้คำตอบที่สมบูรณ์แบบที่สุด
มันมีประโยชน์อย่างยิ่งในทุกกรณีที่ต้องการการให้เหตุผลเชิงลึกหรือความรู้ระดับผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ หรือแม้แต่กฎหมาย
การเขียนโค้ด (Coding):
ถือเป็น "โมเดลการเขียนโค้ดที่ดีที่สุดในตลาด"
ทำคะแนนได้สูงเป็นประวัติการณ์ใน SWEBench และ Aider Polyglot ซึ่งวัดความสามารถในการเขียนโปรแกรมหลากหลายภาษา
สามารถช่วยให้แม้แต่คนที่ไม่รู้โค้ดก็ สร้างสรรค์ไอเดียให้เป็นจริงได้
ในเดโมมีการ สร้างเว็บแอปพลิเคชันสำหรับเรียนภาษาฝรั่งเศส และ แดชบอร์ดทางการเงินที่สวยงาม จากคำสั่งง่ายๆ เพียงไม่กี่นาที
มันสามารถ สร้างโค้ดหน้าบ้าน (front-end) ที่สวยงามและโต้ตอบได้ ตั้งแต่ต้นเลยทีเดียว
ที่น่าทึ่งคือ มันไม่ได้แค่เขียนโค้ดอย่างเดียว แต่ยัง เข้าใจรายละเอียด เช่น การจัดหน้า สี และระยะห่าง ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมตั้งแต่เริ่มต้น
การเขียน (Writing):
คุณภาพการเขียนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เป็นเหมือนเพื่อนร่วมงานที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยยกระดับงานเขียนได้ตั้งแต่ร่างเอกสาร อีเมล ไปจนถึงเรื่องราวต่างๆ
คำตอบที่ได้จาก GPT-5 ให้ความรู้สึก "เหมือนกำลังคุยกับเพื่อนที่มี IQ และ EQ สูง" ไม่ใช่แค่ AI
การเรียนรู้ (Learning):
ทำให้การเรียนรู้แนวคิดที่ซับซ้อน (เช่น Bernoulli Effect) เข้าถึงได้ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้น ด้วยการสร้างเดโมแบบโต้ตอบได้
โหมดเสียง (Voice Mode) มีการปรับปรุงอย่างมาก: ฟังดูเป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อ สามารถแปลระหว่างภาษาได้อย่างราบรื่น และมี โหมด "Study and Learn" ที่จะแนะนำคุณทีละขั้นตอนเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในวิชาต่างๆ คุณสามารถฝึกภาษาใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยการโต้ตอบแบบเสียง
สุขภาพ (Health):
เป็น "โมเดลที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับเรื่องสุขภาพ"
มีคะแนนสูงกว่าโมเดลก่อนหน้าในการประเมิน 'Help Bench' ซึ่งสร้างขึ้นร่วมกับแพทย์ 250 คน
มีผู้ใช้งานจริงใช้ ChatGPT (เวอร์ชันก่อนหน้า) ในการ ทำความเข้าใจรายงานทางการแพทย์ที่ซับซ้อน ให้เป็นภาษาที่เข้าใจง่ายได้ภายในไม่กี่วินาที และช่วยในการตัดสินใจที่สำคัญเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล โดยให้ข้อมูลที่ละเอียดและช่วยชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย
มันช่วยให้ผู้ป่วย มีอำนาจและเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของตนเอง มากขึ้น
ความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพ:
คะแนนมาตรฐาน (Benchmarks): GPT-5 ทำงานได้ดีเยี่ยมในการประเมินทางวิชาการหลากหลายสาขา มันทำคะแนนได้ดีกว่าทั้งโมเดลก่อนหน้าและโมเดลอื่นๆ ในตลาด
ความน่าเชื่อถือและความแม่นยำ (Reliability and Accuracy): พวกเขามุ่งเน้นเป็นพิเศษในการปรับปรุงความถูกต้องของข้อมูล โดยเฉพาะในคำถามที่ซับซ้อนหรือปลายเปิด
ลดการหลอน (Hallucinations): GPT-5 เป็นโมเดลที่ น่าเชื่อถือและถูกต้องตามข้อเท็จจริงมากที่สุด เท่าที่เคยมีมา และมีการหลอกลวงน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
ระบบความปลอดภัยใหม่ (New Safety System):
แทนที่จะตัดสินเจตนาของผู้ใช้ โมเดลจะพยายาม "เพิ่มความเป็นประโยชน์สูงสุดภายในข้อจำกัดด้านความปลอดภัย"
อาจจะตอบคำถามบางส่วน หรือตอบในระดับสูง หากจำเป็นต้องปฏิเสธ มันจะบอกเหตุผลและเสนอทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า ทำให้คุณจะเจอข้อความ "ฉันขอช่วยในเรื่องนี้ไม่ได้" น้อยลงมาก
ความพร้อมใช้งานและการเข้าถึง:
ข่าวดีที่สุดคือ GPT-5 เริ่มเปิดตัวแล้วตั้งแต่วันนี้!
ผู้ใช้ฟรี (Free tier): สามารถใช้ GPT-5 ได้แล้ว! เมื่อถึงขีดจำกัดก็จะเปลี่ยนไปใช้ GPT-5 Mini (ซึ่งยังคงเก่งกว่า GPT-3)
ผู้ใช้ Plus และ Pro: จะมีขีดจำกัดการใช้งานที่สูงขึ้นอย่างมาก และผู้ใช้ Pro จะได้ใช้งาน GPT-5 แบบ ไม่จำกัด เลยทีเดียว!
ลูกค้าแบบทีม (Team), องค์กร (Enterprise) และการศึกษา (EDU): สามารถใช้ GPT-5 เป็นโมเดลเริ่มต้นสำหรับงานประจำวันได้ พร้อมอัตราการเรียกใช้ที่เพียงพอสำหรับทั้งองค์กร
เครื่องมือที่มีอยู่เดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Search, การอัปโหลดไฟล์/รูปภาพ, การวิเคราะห์ข้อมูลด้วย Python, Canvas, การสร้างภาพ, หน่วยความจำ, คำแนะนำที่กำหนดเอง จะยังคงใช้งานได้กับ GPT-5
สำหรับนักพัฒนาและธุรกิจ:
GPT-5, GPT-5 Mini, และ GPT-5 Nano มีให้ใช้งานใน API ตั้งแต่วันนี้
ราคา GPT-5 อยู่ที่ 1.25 ดอลลาร์ต่อ 1 ล้านโทเค็นอินพุต ส่วน Mini และ Nano นั้นเร็วกว่าและประหยัดกว่ามาก โดยเฉพาะ Nano ที่ถูกกว่า GPT-5 ถึง 25 เท่า
ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้งานทั่วไป:
โหมด "คิดอัตโนมัติ" (Automatic Thinking): ใน GPT-5 Pro โมเดลจะ "คิด" อย่างลึกซึ้งในปัญหาที่ซับซ้อนโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้คำตอบที่ละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น คุณยังสามารถบอกให้มัน "คิดหนักๆ" ใน Prompt ได้ด้วย
ปรับแต่ง AI ของคุณ:
เปลี่ยนสีของแชทได้แล้ว!
มีการ "แสดงตัวอย่างบุคลิกภาพ" ให้คุณสามารถเปลี่ยนบุคลิกของ ChatGPT ให้เป็นแบบที่ต้องการได้ เช่น เป็นมิตร มืออาชีพ กระชับ หรือแม้แต่เหน็บแนมเล็กน้อย!
หน่วยความจำที่ได้รับการปรับปรุง (Enhanced Memory): ChatGPT จะเรียนรู้เกี่ยวกับคุณได้มากขึ้นตามกาลเวลา และสำหรับผู้ใช้ Pro (และจะขยายไปยัง Plus, Team, Enterprise) มันสามารถ เข้าถึง Gmail และ Google Calendar ของคุณได้ เพื่อช่วยวางแผนตารางเวลาส่วนตัวได้เลย!
ฟีเจอร์ใหม่ใน API:
ตัวเลือกใหม่สำหรับ "ความพยายามในการให้เหตุผล" (Reasoning Effort) ที่เรียกว่า minimal เพื่อให้โมเดลตอบสนองได้เร็วขึ้นในแอปพลิเคชันที่ต้องการความหน่วงต่ำ
Custom Tools: สามารถให้เครื่องมือแบบข้อความอิสระได้แล้ว แทนที่จะต้องใช้ JSON ที่อาจซับซ้อนสำหรับ Arguments ยาวๆ
Structured Outputs: กำหนดให้โมเดลส่งผลลัพธ์ตามรูปแบบที่กำหนดได้ เช่น RegEx หรือ Context-Free Grammar
Tool Call Preambles: โมเดลสามารถอธิบายสิ่งที่กำลังจะทำก่อนที่จะเรียกใช้เครื่องมือได้
Verbosity Parameter: ควบคุมได้ว่าโมเดลจะตอบแบบสั้นๆ หรือละเอียด
Context Window ที่ใหญ่ขึ้น: ขยายเป็น 400K โทเค็น (จากเดิม 200K) ทำให้สามารถประมวลผลข้อมูลได้ยาวนานขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผลกระทบต่อธุรกิจและนักพัฒนา:
GPT-5 ถูกมองว่าเป็น "ช่วงเวลาที่สำคัญเป็นพิเศษสำหรับธุรกิจและนักพัฒนา"
ธุรกิจกว่า 5 ล้านรายใช้เทคโนโลยีของ OpenAI อยู่แล้ว
มีตัวอย่างการใช้งานจริงแล้ว เช่น Amgen ใช้ใน การออกแบบยา (วิเคราะห์วรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ ข้อมูลทางคลินิก) BBVA ธนาคารข้ามชาติ ใช้ใน การวิเคราะห์ทางการเงิน ซึ่ง GPT-5 เอาชนะโมเดลอื่นๆ ในด้านความแม่นยำและความเร็วอย่างเห็นได้ชัด และ Oscar Health บริษัทประกันภัย ใช้ในการ ให้เหตุผลทางคลินิก
ที่น่าตื่นเต้นคือ พนักงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ 2 ล้านคน จะสามารถใช้ GPT-5 และ ChatGPT ได้แล้ว
GPT-5 ได้รับการฝึกฝนโดยมุ่งเน้นที่ "ประโยชน์ใช้สอยในโลกแห่งความเป็นจริง" มากกว่าแค่ตัวเลขใน Benchmark มันคือเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ และนักพัฒนาจะสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
โดยสรุปแล้ว GPT-5 ไม่ใช่แค่ AI ที่ฉลาดขึ้น แต่มันคือ "ผู้ช่วยส่วนตัวระดับอัจฉริยะ" ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงาน การเรียนรู้ และการใช้ชีวิตของเราไปอย่างสิ้นเชิงครับ! ต้องลองไปใช้เองแล้วจะรู้ว่ามันสุดยอดขนาดไหน!
Comments